เวียงกุมกาม เมืองทั้งหมดถูกฝังอยู่ใต้ตะกอนดิน กรวด และเศษซากจากน้ำท่วมอย่างน้อยสองเมตร และมันยังคงอยู่มานานหลายศตวรรษ การพูดถึงสถานที่นั้นดำเนินไปหลายปี แต่ความรู้เรื่องเวียงกุมกามค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน เหลือเพียงบางส่วนที่กล่าวถึงในพงศาวดารของสมัยนั้น
ดินปัจจุบันปกคลุมเวียงกุมกาม ตกตะกอน ผึ่งให้แห้ง และในที่สุดถูกนำมาใช้เพื่อการเกษตร นาข้าว สวนผลไม้ และบ้านพักอาศัยจำนวนมากถูกสร้างขึ้นบนยอดเมืองที่ถูกฝัง
เที่ยวไทย ที่ เวียงกุมกาม ชื่อนี้เคยถูกกล่าวถึงในพงศาวดารเมื่อนานมาแล้ว แต่นอกจากนั้น ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ชื่อนี้มีที่มาจากคำว่า กุมกุม คำว่า กุม แปลว่า ที่พำนัก ส่วนคำ หมายถึง พื้นที่หรืออาณาเขต ดังนั้นจึงอาจยังคงอยู่หากกรมศิลปากร (รับผิดชอบด้านโบราณคดี) เริ่มขุดค้นในพื้นที่เชียงใหม่และรอบ ๆ เชียงใหม่ในช่วงกลางทศวรรษ 1980
ต้องขอบคุณการวิจัย การทำงานหนัก และความพยายามอย่างมากที่ทำให้เมืองเวียงกุมกามโบราณแห่งนี้ได้รับแสงแห่งวันและความสนใจทางโบราณคดีและศาสนาจำนวนมหาศาลอีกครั้ง
เม็งรายเป็นองค์ชายฉานของชาวไท เขาขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งล้านนาในปี 1259 ในขณะนั้นล้านนารวมถึงจีนยูนนานจนถึงเมืองขุนหมิง ลาวตะวันตก และพม่าตะวันออก (เมียนมาร์) พระเจ้าเม็งรายเป็นทั้งนักรบและพเนจร เขาสร้างเมืองที่มีป้อมปราการเพื่อรวบรวมและปกป้องอาณาจักรของเขา
เมืองเชียงแสน (ริมแม่น้ำโขง) และเชียงรายต่างถูกพระเจ้าเม็งรายเข้ามาตั้งรกรากและก่อนการสถาปนาเชียงใหม่ พระเจ้าเม็งรายได้ยึดลำพูน (อาณาจักรเก่าหริภุญชัย) ในปี พ.ศ. 1281 แต่หลังจากใช้เวลาอยู่ที่นั่นไม่กี่ปี พระองค์ต้องการ “เมืองใหม่” (เชียงใหม่) บนที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงที่อุดมสมบูรณ์และอุดมสมบูรณ์ ได้ย้ายจากลำพูนไปทางเหนือ และสร้างนิคมที่มีป้อมปราการบนโค้งแม่น้ำจะให้ความคุ้มครองทั้งสองด้านและคูน้ำที่ขุดไว้รอบสองด้านที่เหลือ นี่คือเวียงกุมกามและปี 1286
อาณาจักรล้านนาถูกปกครองโดยราชวงศ์มังรายเป็นส่วนใหญ่ และสามารถแบ่งออกเป็น 3 ยุค คือ อาณาจักรตอนต้น (1259-1355) ยุคทอง ได้แก่ ศิลปะ วัฒนธรรม อำนาจ และเศรษฐกิจ (1355-1525) และความเสื่อม และการล่มสลายของอาณาจักร (1525-1558) การรู้ประวัติของสถานที่แห่งนี้ทำให้เราสามารถ เที่ยวไทย ได้สนุกมากขึ้น